จัดมาให้ชัด…..รอยแตกลาย หย่อน รอยย่นร่องอก คืออะไร รักษายังไงดี ที่นี่มีคำตอบ

โดย: นายแพทย์สิทธิพงศ์ ฬาพานิช (หมอเตี๋ยว หมอกวยเตี๋ยว )

ปัญหาในคนทั่วไป หรือจะคนท้อง หรือคนมีอายุ ที่มักพบได้มากขึ้นในปัจจุบันคือ ความหย่อนคล้อย การที่คอลลาเจนโดนทำลาย อายุและการเสื่อมโทรมของผิว ทำให้เกิดผลที่ตามมา คือ

1. รอยแตกลาย ตามที่ต่างๆของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นรอยแตกลายที่ รักแร้ ขาหนีบ สะโพ เอว ก้น แขน ต้นขา หรือบริเวณ หน้าท้อง โดยเฉพาะภายพลังคลอด

2. ผิวหย่อนคล้อย ที่บริเวณ หน้าท้อง เอว หลัง แม้แต่ตำแหน่งใกล้ที่ลับ (ในส่วน บริเวณหน้า สามารถหาอ่านได้ในบทความ

Ultherapy vs Thermage flx vs HIFU กับ โบทอกซ์ หรือ ร้อยไหม อันไหนดีกว่ากัน!! ( หรือรอยเหี่ยวย่นที่เหนียง อ่านได้ในบทความ รู้ให้ ชัด !!! เหนียงที่คอ หรือ เหนียงไก่งวง หรือ neck wattle หรื turkey neck https://www.route035.com/webboard/index.php?topic=309.0 )

และบริเวณหน้าอกที่เราเรียกว่า decolletage wrinkles หรือแม้แต่รอยย่นที่เกิดในกรณีของการทำศัลยกรรมที่เราเรียกว่า Ripples หรือ Rippling ที่เกิดจากถุงซิลิโคน ผลิตมาได้ไม่สมบูรณ์หรือ สมบูรณ์แต่ด้วยลักษณะที่ ต้องมีความนุ่มมันจึงไม่ตึงทำให้เกิดรอยย่นได้ ที่หน้าอกบริเวณที่ใส่ซิลิโคน ครับ

ดังนั้นผมจะมาแนะนำ กลไกการเกิด วิธีต่างๆที่แก้ไข ว่าวิธีไหน ที่เขายอมรับกันบ้าง หรือวิธีไหน โม้อย่างเดียวไม่มีข้อดีปนเลยก็มีนะครับ มาดูกันเลย

Q : รอยแตกลาย คืออะไร ?

A : รอยแตกลาย หรือภาษาแพทย์เรียกว่า Stretch Marks หรือ Striae นั้นสามารถเกิดได้ทุกเพศทุกวัย และทุกตำแหน่ง ที่เกิดมาคือ บริเวณท้อง สะโพก แขน รอยต่อรักแร้ ต้นขา น่อง

ถ้าเกิดในคนท้อง เรามักเรียกว่า Striae Gravidarum หรือ Striae Distensae หรือ striae rubra เป็นภาวะความผิดปกติของผิวที่ทำให้เกิดร่อง หรือรอยของผิวเหมือนไม้ที่ถูกบิดให้แตกเป็นแง่งๆ เหมือนรอยปริแตกครับ

Q : ความหย่อนคล้อย ริ้วรอยที่หน้าอก หรือที่ท้องเกิดจากอะไร?

A : ก่อนอื่นเราต้องรู้ว่าเรามีส่วนประกอบของคอลลาเจนและอีลาสติน ที่สานเป็นเหมือนโครงพยุงชั้นผิวหนังของเราไว้ด้านใต้ ที่เราเรียกว่าชั้น Smas หรือ superficial musculoaponeurotic system นั่นเอง

คือพอเราเติบโตหรือคนท้องที่มีการขายตัวของขนาดร่างกายที่มากขึ้นอย่างรวดเร็วเกินกว่าเจ้าชั้นของคอลลาเจนและอีลาสตินนี้มันจะขยายตัว “ตาม” ได้ทัน มันก็เกิดการฉีกเหมือนเราเอาไม้มาบิด มันก็จะฉีกเป็นเส้นเล็กๆ ก็เหมือนเจ้าชั้นนี่ล่ะครับมันเกิดการฉีกเกิดขึ้น

สำหรับในวัยรุ่นมักเกิดในช่วง Growth spurts หรือ ช่วงที่ร่างกายเติบโตสูงและขยายขนาดมากที่สุด หรือบางครั้งเกิดจากการผอมลงอย่างรวดเร็วก็ยังได้นะครับ

พอคอลลาเจนและอิลาสตินถูกทำลาย จากการตั้งท้องที่ทำให้ผิวเกิดการฉีกแยก หรือจะเกิดจากอายุที่มากขึ้นก็ได้ แต่บริเวณท้องมักเกิดจากการยืดของผิวและทำลายคอลลาเจนไปพร้อมกัน สำหรับในคนท้องมักเกิดประมาณเดือน 6 ขึ้นไป เพราะเป็นช่วงที่ขยายขนาดของท้องมากที่สุด (และปวดหลังสุดๆด้วยครับ)

พอหลังคลอด ร่างกายไม่สามารถสร้างคอลลาเจนมาทดแทนและหดกลับของผิวหนังได้ ในส่วนบริเวณหน้าอกเราเรียกว่า Decolletage ถ้าเป็นริ้วรอยเรียก Wrinkles ถ้าเป็นตระกูลผิวสีผิดปกติเรียก Hyperpigmentation ครับ

Q : ทำยังไง จะรักษายังไงดี?

A : จริงๆก็เหมือนเดิมล่ะครับ ของพวกนี้เรารักษาที่สาเหตุ เช่น

หลังคลอด การจะกระชับผิวที่เกินหย่อนคอลลาเจนถูกทำลายกล้ามเนื้อบิดผิดรูป เราทำได้โดยการ ใส่ที่รัดครับ ตระกูลผ้ายืดที่รัดหลังคลอดนั่นละครับ ถ้าใช้ของที่มาตรฐานหรือรัดถูกวิธีและถูกตำแหน่ง ผมว่า ผิวจะกลับมากระชับเองได้โดยไม่ต้องทำอะไรเลย
รอยแตกลายล่ะ จริงๆแล้ว แยกเป้นสองกรณีครับคือ คนท้อง กับรอยแตกลายที่เกิดในคนธรรมดาที่ไม่ได้ตั้งครรภ์
ถ้าเป็นระหว่างการตั้งครรภ์ การใช้ครีม บางชนิดที่โฆษณาว่าช่วยลดรอยแตกลายได้นั้น ส่วนใหญ่เมื่อเรามาดูส่วนประกอบของ ครีมพวกนี้มักเป็น สารสกัดน้ำมัน เป็นส่วนประกอบหลัก นอกจากนี้มักประกอบด้วย วิตามิน อี <Vitamin E> อาจมี cetesomate – e complex ,สารสกัด Cocoa เป็นส่วนประกอบทั้งนั้นครับ

ผมจะลองแยกให้ดูทีละตัว

สารสกัดน้ำมัน มีหน้าที่ให้ความชุ่มชื้นเป็นหลักเพราะ ความชุ่มชื้น จะทำให้ผิวเรามีองค์ประกอบการทำงานที่สมบูรณ์เหมือนได้รับอาหารและทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นมากกว่าปกติ เหมือนเราใส่จารบีในเครื่องกลนั่นละครับ

วิตามิน อี อันนี้เป็นพระเอกของส่วนประกอบในเครื่องสำอางเสมอ วิตามินนอกจากจะต้านอนุมูลอิสระแล้ว ตัววิตามินอีเอง ถือเป็น anti ageing agent หรือสารต้านการเหี่ยวทำลายผิวชั้นดีและราคาถูก

cetesomate – e complex นี่เหมือนที่เครื่องสำอางปัจจุบันชอบโฆษณากันแบบนาโนเทคโนโลยี คือช่วยทำให้เกิดการซึมได้ลึกเร็วกว่าปกติ

Cocoa Butter อุดมไปด้วย กรดไขมันจำเป็น จึงทำให้ผิวชุ่มชื้นและแข็งแรงกว่าปกติครับ

ดังนั้นเมื่อมาดูส่วนประกอบ จึงบอกได้เลยว่า “เวิร์ก” ครับ แต่ อ๊ะๆ ใช้แค่ป้องกันนะครับไม่ได้รักษา และการป้องกันก็ไม่ได้ป้องกันได้ 100% ซะด้วยครับ

Q : ครีมทารักษารอยแตกลายที่โฆษณามันได้ผลจริงไหม?

A : เอาแบบตรงๆนะครับ ผมว่าตามท้องตลาดที่อ่าน ส่วนประกอบแล้วรันทดครับ เมื่อมาเทียบกับรูปที่เขาเอามา “โม้” โชว์ มันแทบไม่ค่อยจะได้อะไรเลย แค่วิตามินอี โอเคถ้าป้องกันพอได้ แต่รักษามันยากครับ

ปัจจุบันมีคนแนะนำให้ใช้กลุ่มยาทาพวกวิตามินเออย่าง adapalene ในส่วนตัวผมว่ามันจะแย่มากกว่าดี แถมบางคนมาทาตอนท้องอีก อันตรายสุดๆลูกพิการได้เลยครับ หรือถ้าทาในคนปกติมันก็ยังระคายเคืองได้ง่ายและแดงง่ายอีกด้วยแถมราคาก็สูงไม่คุ้มเอาเลยครับ

ถ้าเป็นคนธรรมดา ทั่วไป บอกเลยว่าเหนื่อย เพราะอย่างที่กล่าวมา มันเกิดจาก การโตไม่ทันของกระบวนการการเติบโตของร่างกายครับ สิ่งที่ใช่ พวกครีม ผมไม่ค่อยพบว่ามันมีประโยชน์อะไรนัก คือถ้าจะใช้ครีม ต้องใช้กันเป็นปีๆ ใช้กันแบบจำนวนไม่ใช่หลอดนะครับ ต้องเป็นกาละมัง ผมแนะนำการใช้เครื่องมือใหม่ๆมากกว่า ยิ่งปัจจุบัน ยุค ปี 2020 แล้วนี่ เครื่องมือใหม่ๆมีมากมายนะครับ

Q : เครื่องมืออะไรล่ะที่แนะนำ

A : แน่นอนถ้าเป็นรอยแตกลายเราต้องใช้เครื่องมือที่สร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ไม่ว่าจะเป็น Fraxel , Genesis , หรือแม้แต่ตระกูล Ulthera ที่พบว่าสร้างคอลลาเจนใหม่ๆได้ดีแถมลดรอยดำด้วยในบางรายงานครับ

นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือใหม่ๆอย่าง เครื่องกระชับผิวด้วยความเย็นอย่าง Coolsculpting หรือ Cooltech define (ผมชอบ Cooltech เป็นพิเศษ ครับ) นอกจากเครื่องความเย็นนี้ที่ช่วยรอยแตกลายยังช่วยในเรื่องกระชับผิวลดไขมันได้ด้วยนะครับ

บางที่สามารถใช้พวก Chemical Peeling เอามาลดรอยแตกลายในกระบวนการลอกผิวได้แต่ควรใช้ด้วยความชำนาญครับ เพราะไหม้ดำง่ายมาก แต่ถ้าแพทย์ชำนาญถือว่าคุ้มค่าที่สุด เพราะค่าใช้จ่ายหลักร้อยบาทเท่านั้นครับผม

ในส่วนบริเวณ Decolletage นั้น คงต้องยกให้กับ Ulthera นะครับ เพราะเขาชูเรื่องนี้มานานมาก แต่ปัจจุบัน ผมลองเอา Cooltech มาทำก็ดูแล้วดีขึ้นนะครับ แต่ต้องเก็บเคสอีกสักระยะครับ

Q : เเล้วจะเลือกรักษาที่ไหนดี เลือกยังไง?

A : จริงๆเเล้วการเลือกนั้นไม่จำเป็นต้องมีเครื่องเลเซอร์ที่ดีมากระดับอย อเมริกาก็ได้นะครับ (แต่ถ้าผ่าน อย อเมริกา ผมว่าจะยิ่งดี 55 ) เพราะอาจารย์ผมบางท่านท่านรักษาฝ้าใช้วิธี เเค่ Soft Peeling ด้วย chemical peeling ตระกูล jessner , Modified Jessner , Blue peeling etc. ก็สามารถทำได้ดีครับ เเต่เเพทย์ต้องชำนาญจริงๆเท่านั้นเพราะ การใช้สารเคมีเเบบนี้ไหม้เอาง่ายๆครับ

ดังนั้นหลักการสำคัญก็เหมือนเคย ควรเลือกเเพทย์ที่ดี ที่น่าเชื่อถือ มีวุฒิ ไม่เอาเเต่ชักเเม่น้ำขายของ เพราะผมว่าจะหาได้ยากนะครับที่คุณจะเดินเข้าคลินิกเขา เเล้วเขาบอกว่าทำไม่ได้ หรือเครื่องมือที่เขามีไม่เหมาะกับคุณ