โดย: นายแพทย์สิทธิพงศ์ ฬาพานิช (หมอเตี๋ยว หมอกวยเตี๋ยว )

ปัจจุบันนวัตกรรมการลดไขมัน ความหย่อนคล้อย หลังคลอดบุตร ลดความอ้วน หรือลดรอยแตกลาย มีวิวัฒนาการใหม่ในรอบ 5 ปีนี้ที่มาแรง ชื่อว่า Cryolipolyis หรือ การสลายไขมันด้วยความเย็น คือเดิมที เขานิยม sculpsure หรือที่เรียกว่า warm sculpting  ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ออกมานช่วงปี 2014 สมัยนั้นเราก็นึกถึงว่าความร้อน จะช่วยสลายไขมันได้ (แต่บางคนบอกว่าคือ เทคโนโลยีใหม่ แต่ผมว่า มันออกปี 2557 นะครับ ซึ่งผมว่ามันเอ้าท์ไปนิดครับ แต่สุดท้ายก็แล้วแต่คนชอบนะครับ)

มาจนถึงการใช้ยาฉีด หรือแม้แต่เครื่องคาร์บอกซี่ เมโสแฟต Mesofat ไล่มาจนผ่าตัดดูดไขมัน ตัดหนังที่เกินเย็บใหม่ 

จนพัฒนามาเรื่อยๆครับ จนปัจจุบัน เทรนด์ที่นิยมและค่อนข้างได้ผลคือ การสลายไขมันด้วยความเย็น ที่ในตลาดมีเครื่องที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะ Coolsculping , COOLTECH , Cooltech Define , Clatuu , Zlipo , Zimmer , Cryo V , Cryo fit , ICE SHAPE IV PRO มาจนถึงการใช้ยาฉีด หรือแม้แต่เครื่องคาร์บอกซี่ เมโสแฟต Mesofat

จะเห็นว่าเครื่องที่ทำความเย็นเพื่อจัดการเจ้าไขมันนี่ ปัจจุบันมีเยอะมากๆเลยนะครับ แล้วเราจะเลือกเครื่องพวกนี้ยังไงดี เดี๋ยวเรามาดูกันครับ

 

Q : ทำไมมาใช้ความเย็นกำจัดไขมัน

A : เพราะหลากหลายเหตุผลครับ ทั้งลดผลข้างเคียงจากการต้องผ่าตัดหรือดูดไขมัน ทั้งจากการดมยา การติดเชื้อ แผลเป็น การพักฟื้น การนำความเย็นเข้ามาทำลายไขมันจะลดผลข้างเคียงดังกล่าว อีกทั้งเข้าถึงง่าย ไม่พบผลข้างเคียง (เคยพบเคสความเย็นไหม้ผิว แต่ไม่เยอะ) ไม่ต้องพักฟื้น สะดวกสบาย ค่าใช้จ่ายไม่สูง ไม่มีแผล

Q : กลไก คืออะไร ทำไม ความเย็นมาละลายไขมันได้ล่ะ ?

Q : อ้าวแล้วความเย็นจะไปทำลายเซลล์อื่นรึเปล่า ไม่อันตรายรึ

A : อันนี้สบายมากครับ เพราะ Adipocyte (เซลล์ไขมัน) นั้นเจาะจงกับความเย็นมากที่สุดกว่าเซลล์อื่นๆหลายเท่านักครับเราเรียกว่า cold-induced panniculitis  (การก่อการอักเสบของไขมันด้วยความเย็น ) ดังนั้นกระบวนการ ความเย็นทำลายเซลล์ไขมันจึงไม่มีผลต่อเซลล์ชนิดอื่นๆเลยครับ

Q : ผลข้างเคียงมีอะไรบ้าง

A : ที่พบส่วนใหญ่คือแดง ครับ มีช้ำบ้าง กับตอนทำรู้สึกเจ็บเหมือนคนมาหยิกที่ตำแหน่งที่ทำ รอยแดงหรือช้ำอาจมีได้ประมาณ3-7 วันครับ ส่วนการไหม้ พบได้บ้างในเครื่องเก่าๆ หรือเครื่องไม่ได้มาตรฐาน เครื่องรุ่นใหม่ๆไม่พบครับ

Q : กำจัดไขมันได้ต่อครั้งจำนวนเท่าไร

A : รู้สึกจะมี Cooltech Define ที่การันตี ว่าไขมันจะกำจัด 25-35% ต่อพื้นที่ที่ทำ 1 ครั้งครับ ตัวอื่นๆผมไม่มั่นใจตัวเลขครับ

Q : เครื่องตัวไหนมาจากประเทศอะไรบ้าง ข้อมูลพอสังเขป มีอะไรบ้าง น่าเชื่อถือแค่ไหน ปลอดภัยไหม

A : COOLSCULPTING นี่ของอเมริกา เดิมที Zeltiq เป็นต้นคิด ผมยังจำได้สมัยก่อนเป็นบูทเล็กๆเวลาไปออกงานแสดงเครื่องมือแพทย์ แต่ด้วยความสามารถและเป็นตัวบุกเบิกเบิกตลาดเครื่องสลายไขมันด้วยความเย็น ทำให้โด่งดังจน Allergan เข้ามาซื้อไปครับ

ถือเป็นตัวแรกๆ หัวหมู่ทะลวงฟันในตลาดเครื่องประเภทนี้ครับ แต่ตัวเครื่องนั้นพอขายลิขสิทธิ์ให้ไปก็ใช้โมเดลรุ่นเดิมที่ปรับเปลี่ยนบางส่วนให้ใช้เวลาในการทำน้อยลงต่อครั้ง แต่คงไว้ซึ่งประสิทธิภาพเท่าเดิม ตัวหัวปัจจุบันพัฒนามี 6 ขนาด ให้เลือกใช้แต่ละจุด แต่ทำได้ครั้งละ 1 จุดเท่านั้นต่อเครื่อง https://www.coolsculpting.com/

COOLTECH Define

นี่เป็นเครื่องของ อังกฤษร่วมมือกับเสปนครับ ถือเป็นเครื่องที่มาแรงมากๆ เพราะตัวเครื่องนั้น ทำจากบริษัท COCOON ที่ยังเป็นเจ้าของตัวเครื่อง จึงได้มีการทำ Research and Develop <R&D> ต่อเนื่องมาจนมีเครื่องรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งออกในปลายปี 2019 คือ Cooltech Define ที่ เปิดตัวด้วย 9 หัวที่แตกต่างกันมีกระทั่งหัวสำหรับทำเหนียงใต้คางด้วย (แม่เจ้า)

แถมด้วยทำพร้อมกัน 4 จุดในเวลาเดียวกันได้เลย รวมถึงมีหัวนวดหลังทำมาให้ไขมันแตกตัวด้วยนะครับ นอกจากนี้ยังใช้กลีเซอรอลเป็นส่วนผสมในแผ่นเจลที่แปะผิว ซึ่งตัวนี้ถ่ายความร้อนลงใน Extracellular Matrix ต่อไปครับ ความร้อนจึงถ่ายเทดี

ยังเป็นตัวแรกที่กล้าเคลมว่า ให้ความเย็นในระบบ 360 องศาได้จริง ซึ่งส่วนนี้พัฒนามาจาก รุ่นแรก (รุ่นแรกชื่อ Cooltech รุ่นสองชื่อ Cooltech define) ดังนั้นข้อดีของเขาคือเขาทำ R&D พัฒนาเครื่องตลอดเวลาครับ

https://www.cosmeditech.com/cooltech-define/

Zlipo Zimmer

Zlipo เป็นของ Zimmer ของประเทศเยอรมันนะครับ หัวมี 3 ขนาด ทำได้พร้อมกัน 2 หัว ข้อดีคือ แรงดูดครับ (คือปกติหัวเครื่องจำพวกนี้จะมีตัวดูดผิวให้เข้าไปสัมผัสกับความเย็น เหมือนเครื่องดูดฝุ่นนั่นล่ะครับ ) สามารถทำแรงดูดได้ 10 ระดับเลยนะครับ คือ มั่นใจเลยว่าทำแล้วไม่มีหลุด และ Zimmer นี่เป็นบริษัทชั้นนำของเยอรมันครับ

https://www.cosmeditech.com/cooltech-define/

Clatuu

เครื่องนี้เป็นเครื่องของประเทศ เกาหลีใต้ครับ ของ Classys …อ๊ะๆๆ เห็นเป็นเครื่องเกาหลี อย่าไปดูถูกนะครับ เพราะจากที่ผมสัมผัสนี่ ตัวเครื่องเขา หน้าจอเอย รูปร่างเครื่อง หัวดูด(ก็ยังมีจอที่หัวดูด) ถือว่ารูปร่างล้ำเกินเครื่องละลายไขมันด้วยความเย็นเจ้าอื่นไปไกลเลยนะครับ ด้านเทดโนโลยี เป็นอีกเครื่องที่นอกเหนือจาก Cooltech define ที่เคลมว่ากำเนิดความเย็น 360 องศาจริงๆ และตอนทำก็สามารถทำได้ 2 หัวพร้อมกันนะครับ

https://classys.com/product-line/clatuu/

Iceshape IV Pro

เครื่องนี้นิยมมากในไทยนะครับ เป็นเครื่องที่มาจากประเทศจีนครับ แต่ผมหารายละเอียดบริษัทไม่ได้เลย ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ เครื่องนี้ มี 4 หัว สามขนาด ครับ จะมีสองหัวที่ขนาดเท่ากันไว้ทำบริเวณลำตัว นอกนั้นจะเป็นแขน หรือ ขาครับ เครื่องนี้จะใช้ระบบหนีบนะครับ แบบตัวหนีบผิว ไม่ได้ใช้ระบบ Vacuum ดูแบบเครื่องอื่นๆครับ สามารถทำได้ 4 หัวพร้อมกัน

https://www.youtube.com/watch?v=d4XnHNs7i2M

 

---

Q : แล้วเครื่องไหน ดีที่สุดล่ะ

ผมว่าอยุ่ที่ว่าเรามองมุมไหนครับ อย่างเครื่องจีน แม้จะดูแปลกๆ แต่ถ้าราคาไม่แพง ทำได้ผลระดับนึง ผมว่าก็พอไหวนะครับ ถ้าตัวเครื่องผ่านการรับรองจาก สถานเครื่องมือแพทย์แล้วครับ  และถ้าเราจะมองในแต่ละมุม ผมจะใส่เป็นเกร็ดให้ครับ ดังนี้

ถ้าเทคโนโลยีอัพเดท ทันสมัยที่สุด ผมยกให้ Cooltech define กับ Clatuu ครับ เพราะด้วยเทคโนโลยี ความเย็น 360 องศาจริงๆ (นึกภาพลูกบอลนะครับ 360 องศารอบด้าน ไม่ใช่ 360 แบบที่เราเขียนบนกระดาษ พูดง่ายๆคือมีมิติ 360 ทั้งกว้าง ยาว สูง )  และนอกจากนี้ รูปลักษณ์ ทั้ง Clatuu กับ Cooltech นี่รูปร่างเครื่องสวยงาม ทันสมัย หน้าจอใช้ง่าย ดูล้ำกว่าเครื่องยี่ห้ออื่นๆครับ

มาตรฐานการยอมรับ แน่นอนครับ Coolsculping , Cooltech define , Z Lipo ได้รับการยอมรับมากในระดับโลกครับ โดยเฉพาะพี่เต้ย Coolsculping รองมาคือ Cooltech แล้วก็ Zlipo อาจเป็นเพราะเป็นเครื่องจากทาง อเมริกาและยุโรป คนเลยรู้จักกันมากกว่า Clatuu ครับ

การใช้งาน การใช้งานที่หลากหลาย อันดับ 1 ชั่วโมงนี้ต้อง Cooltech define ครับ เพราะเขามีหัวให้เลือก 9 แบบ!!!!

ฟังไม่ผิดหรอกครับ 9 แบบ แต่ละแบบออกแบบมาใส่ใจจริงๆ คือมีทั้งหัวสำหรับเหนียงใต้คาง บริเวณแขนหนีบใต้รักแร้ ใต้ราวนม ขาหนีบ เอวด้านข้าง แขนส่วนบน ส่วนใน ส่วนนอก คือพี่แกมีหมดทุกแบบเลยครับ สมกับที่เขาชูเรื่อง R&D ที่เขาทำการค้นคว้าและพัฒนาเครื่องของตนเองไม่มีหยุด แถมทำพร้อมกันได้  4 จุดเลย แบบไม่ต้องอั้นอุจจาระปัสสาวะนั่งทำสามสี่ชั่วโมงครับ

ระยะเวลาในการทำ Coolsculping ให้ทำได้ทุกๆที่ 6 สัปดาห์ เหมือน Zlipo ส่วน Cooltech ทำทุกๆที่ 6-10 สัปดาห์

ประสิทธิภาพ ที่ทำแล้วมีรีวิวในระดับต่างประเทศในเวปไซด์ที่น่าเชื่อถือรวมถึงผลทางวิชาการที่ลงใน American Journal แน่อนต้องยกให้ Cooltech define (ต้องรุ่นใหม่นะครับ ) กับ Coolsculpting ครับ ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุดแล้วครับผม นอกจากนี้ตัวเจลของ Cooltech ใช้ กลีเซอรอลซึ่งช่วยปรับส่วนประกอบในผิวซึมลงไปทำให้น้ำเกิดการกระจายทำให้ไม่เกิดการไหม้ของผิวและความร้อนกระจายตัวดีครับ

ความเจ็บ เท่าที่ลอง จะเท่าๆกันครับ ยกเว้นของจีนที่ใช้ระบบหนีบมากกว่า แต่ตัวที่ชาเร็วๆ (เพราะเย็นเร็ว ) คือ Zlipo กับ Cooltech define ครับ ชาเร็วมาก เหมาะกับคนไม่ชอบความเจ็บ

ความนิยม ดั้งเดิมต้อง Coolsculping ครับ แต่รุ่นใหม่มาแรงแซงทางโค้งต้องยกให้ Cooltech define by Cocoon ที่มี 9 หัว ทำพร้อมกัน 4 จุดนี่ล่ะครับ เพราะผลที่ได้คุ้มค่าจนบอกต่อกันมานักต่อนักละครับ

ราคา แน่นอนว่า ตัว Coolsculping กับ Cooltech define ต้องแพงสุดเพราะทุนเครื่องหลัก 4++ ล้านใน Coolsculping และ 5.5 ล้านใน Cooltech define <Full function>  แถมด้วย แผ่นเจลกันไหม้ที่ตกแผ่นละ 1500 ++ บาท ซึ่งราคาหลุดโลกยี่ห้ออื่นไปเลย ดังนั้นค่าทำแต่ละจุดต้องมีหลักหมื่นนะครับ

การประเมินคนไข้ก่อนทำ มีแค่ cooltech define ที่มี กริซ 9 ขนาด ในการทาบวัดคนไข้ก่อนทำว่าแต่ละตำแหน่งจะใช้ที่ทำแบบไหน เพราะแต่ละตำแหน่งถ้าวัดด้วยกริซที่ถูกต้อง จะได้ผลลัพธ์ที่ดีมากๆเพราะไขมันผิวบริเวณนั้นจะถูกสัมผัสความเย็นได้มากครับ

การพัฒนาในอนาคต ถ้าส่วนตัวผมยกให้ Cooltech ครับ จากการที่เขาไม่ได้ขายเทคโนโลยีของตัวเองไปอย่างยี่ห้ออื่น ทำให้บริษัท Cocoon ซึ่งเป็นผู้ผลิตและเจ้าของ cooltech ซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นจุดกำเนิดเก่งด้านเทคโนโลยีอยู่แล้ว ไม่ได้ขายตัวเครื่องออกไป ดังนั้นเขาถึงพัฒนาตัวเครื่องเขาเองได้ตลอดเวลาครับ เพราะเท่าที่ทราบ ทั้งบริษัทเขา 1 ใน 5 เป็น พนักงาน แผนก R&D เลยนะครับ คือมีอะไรใหม่ๆมาให้พวกเราร้องว้าวได้ตลอดเวลาครับ

​ความคุ้มค่า แน่นอนครับ Cooltech define หัว Double กับ coolsculping ที่มีหัว coolmax เพราะพื้นที่หน้าตัด เท่ากับยี่ห้ออื่นเกือบ 3 เท่า ในการทำครั้งเดียว ดังนั้นจ่ายเงินแค่จุดเดียวแต่กินพื้นที่กว้างกว่าครับ คุ้มกว่า แต่เจ้าหัวดับเบิ้ลนี่ ใช้ได้เฉพาะผิวท้องบางแบบเท่านั้นนะครับ  และอีกอันคือ มันทำเหนียงใต้คางด้วยหัวจิ๋วได้นี่ล่ะครับ คือความคุ้มของมันครับ

---

Q : สรุป แนะนำอย่างไร

A : ถ้าจะหาเครื่องประเภทนี้ที่หาง่ายสุดคือ Coolsculpting ครับ เพราะคลินิกชั้นนำใช้หลายคลินิกและ เป็นเครื่องแรกที่ทำออกมาด้วยครับ

ถ้าจะหาตัวที่เทคโนโลยีใหม่ๆ ทำได้หลายตำแหน่งพร้อมกัน(รวมถึงเหนียงใต้คาง) รวมถึงมีหัวทำให้เลือกหลากหลายแบบ (แต่ละแบบเหมาะกับแต่ละจุดของร่างกาย) ให้หา Cooltech Define ครับ เพราะนี่เป็นรุ่นที่สองแล้ว บริษัทนี้มี R&D ไม่ได้เน้นการตลาด แต่เน้นพัฒนาเทคโนโลยีตัวเครื่องอย่างที่ได้กล่าวไป แต่หายากนิดเพราะเพิ่งเข้าเมืองไทยช่วง กุมภาพันธ์ 2563 นี่เองครับ แต่ก็มีหลายคลินิคชั้นนำเอาเข้ามาแล้วครับ ส่วน coolsculping ก็มีหัวให้เลือก 6 แบบ แต่เป็นออพชั่นที่คลินิคไหนจะซื้อหัวขนาดอื่นๆมาไหม

– ถ้าจะหาที่ราคาประหยัดไม่แพงมากแต่ผลที่ได้คือดี ต้อง Zlipo ,Clatuu ครับ

– สุดท้ายก็อยู่ที่งบล่ะครับ ถ้างบคุณมีใช้ Cooltech define ไม่ก็ Coolsculping ไปเลยครับ แต่ถ้างบเราไม่ถึง คุณก็สามารถเลือกพวก เครื่องอื่นๆหรือเครื่องจีนก็ไม่ผิดนะครับ มันอยู่ที่ความสบายใจของเรามากกว่าครับ

---

Q : เเล้วจะเลือกรักษาที่ไหนดี เลือกยังไง ?

A : จริงๆเเล้วการเลือกนั้นไม่จำเป็นต้องมีเครื่องเลเซอร์ที่ดีมากระดับอย อเมริกาก็ได้นะครับ (แต่ถ้าผ่าน อย อเมริกา ผมว่าจะยิ่งดี 55 ) เพราะอาจารย์ผมบางท่านท่านรักษาฝ้าใช้วิธี เเค่ Soft Pelling ด้วย chemical peeling ตระกูล jessner , Modified Jessner , Blue peeling etc. ก็สามารถทำได้ดีครับ เเต่เเพทย์ต้องชำนาญจริงๆเท่านั้นเพราะ การใช้สารเคมีเเบบนี้ไหม้เอาง่ายๆครับ

ดังนั้นหลักการสำคัญก็เหมือนเคย ควรเลือกเเพทย์ที่ดี ที่น่าเชื่อถือ มีวุฒิ ไม่เอาเเต่ชักเเม่น้ำขายของ เพราะผมว่าจะหาได้ยากนะครับที่คุณจะเดินเข้าคลินิกเขา เเล้วเขาบอกว่าทำไม่ได้ หรือเครื่องมือที่เขามีไม่เหมาะกับคุณ

ดังนั้นถ้าเเพทย์ที่ดี ที่น่าเชื่อถือเขาสามารถบอกความจริงเเก่คุณได้ว่าเครื่องมือที่เขามีสามารถรักษาคุณได้จริงไหม ได้ระยะเวลาเท่าไหร่  ไม่ใช่เอาเเต่โม้หรือมั่วไปเรื่อยว่าทำได้ อยูได้เป็นปีอะไรประมาณนี้ เเล้วคุณก็ลองดูเครื่องมือเขาว่าดีจริงไหมเพราะพวกนี้มัน search net ได้อยู่เเล้วว่าผ่าน อย อเมริกาจริงไหม เพราะคลินิคที่ใหญ่ บางครั้งก็อาจจะไม่ได้ใช้เครื่องมาตรฐานเสมอไปครับ

สรุปก็คือดูที่เเพทย์ก่อนเลย ถ้าเเพทย์น่าเชื่อถือ เป็นหมอที่เป็นหมอ ไม่ใช่นักธุรกิจในคราบหมอ คุณจงไปหาเขา ต่อให้เขาอยู่ไกลเเค่ไหนคุณก็ควรไปครับ เพราะสิ่งที่คุณได้นอกจากผลการรักษาที่ดี ที่น่าพอใจ เเล้วยังคุ้มค่ากับเงินที่ต้องเสียไป เเถมไม่มีผลข้างเคียงให้เสียใจเเบบในข่าวครับผม