เหนียงที่คอหรือเหนียงไก่งวง คืออะไร วิธีลดเหนียงทํายังไง
โดย: นายแพทย์สิทธิพงศ์ ฬาพานิช (หมอเตี๋ยว หมอกวยเตี๋ยว )
เหนียง ก้อนใต้คาง เหนียงใต้คาง เหนียงไก่ ไขมันที่คอ ใต้คาง หรือจะถุงเงิน ถ้าว่ากันตามโหงวเฮ้งแล้ว บางหมอดูท่านก้บอกว่าต้องมี มีแล้วรวย บ้างก็ว่าว่ามีแล้วแก่ตัวดี แต่ปัจจุบัน กันเทรนด์เด็กยุคใหม่ หรือจะยุคเก่าที่ชอบควาสวยงาม การไม่มีเหนียงหรือการมีรูปกรอบหน้าที่คม ได้รูปเรียว กลับเป็นสิ่งที่หลายๆคนใฝ่ฝันหา และพยายามจะหาวิธีที่ทำให้มันหายไป แต่หลายวิธีนั้น มันอันตรายและไม่ผ่าน อย หรือการรับรองทางการแพทย์น่ะสิครับ
ผมจะมาอธิบายที่มาที่ไป กลไก วิธีที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ในการรักษาลดเหนียง และปลอดภัย ให้ไปเลือกกันเอาเองครับ แต่ผมว่านะ ดูโหงวเฮ้งด้วยก็ดีครับผม
Q : เหนียงคืออะไร?
A : เหนียงใต้คอ คือ ไขมันส่วนของชั้นใต้ผิวหนัง ที่เกิดการสะสมจนมีรูปร่างเห็นได้ชัด บางคนเรียกว่า Double chin หรือ จะ triple chin กันไปเลย (อย่า six chin ละกันครับ) บางคนก็เรียก chin bag ก็ยังมี
Q : เหนียงใต้คางเกิดจากอะไร?
A : มันค่อนข้างกว้างครับ อาจเกิดจากความอ้วน , ลักษณะรูปร่างของแต่ละบุคคลที่มีมาแต่กำเนิด เช่น คางสั้น รูปโครงหน้าจากบรรพบุรุษ รูปร่างท้วมอยู่แล้ว , การหย่อนคล้อยของผิว หรือแม้แต่เกิดจากการบาดเจ็บ หรือโรคบางชนิด เช่นเนื้องอก ต่อมน้ำเหลืองบวม ก็ยังได้ครับ
Q : ลดเหนียง ทำยังไง?
A : มันก็ขึ้นกับสาเหตุครับ ถ้าเราคลำได้เป็นก้อน หรือเจ็บ หรือมีลักษณะผิวที่ผิดปกติ สิ่งแรกที่ควรทำคือไปพบแพทย์ครับ เพื่อตรวจร่างกาย เพราะอาจเป็นต่อมน้ำเหลือง เนื้องอก ฯลฯ ที่ผิดปกติ ถ้าเกิดจากความอ้วน ก็ใช้การออกกำลังกาย การควบคุมอาหาร โดยเฉพาะการออกกำลังกายบางท่านี่ช่วยได้เยอะเลยนะครับ
Q : ถ้าทำอย่างข้างต้นแล้วไม่ได้ผลล่ะ มีวิธีอื่นอีกมั้ยที่จะช่วยได้?
A : มีหลายวิธีครับ แต่หลายๆวิธีก็ไม่ผ่านการรับรองจาก อย หรือการแพทย์นะครับ จะอธิบายเป็นข้อๆครับ
1. พวกการฉีดเมโสเทราปี หรือยาฉีดต่างๆ พวกนี้จดทะเบียนยาผ่านก็จริง แต่จดในรูปของยาทาครับ ไม่ได้ใช้ฉีดเอาซิกแซกเอามาฉีดคนไข้นี่ล่ะครับ ดังนั้น “ผิดจรรยาบรรณแพทย์และผิดกฎหมายนะครับผม”
2. ผ่าตัด นับเป็นวิธีที่ได้ผลชัดเจน แน่นอนครับ เราเรียกว่า Neck lift เป็นการดึงกล้ามเนื้อ หรือ เก็บหนังเกิน หรือบางครั้งใช้วิธีดูดไขมันออกมาครับ พวกนี้มีแผลหลังทำได้ครับ ขึ้นกับฝีมือของแพทย์และลักษณะของแต่ละบุคคลที่บางคนมีลักษณะที่เกิดแผลเป็นได้ง่าย
3. การใช้ความเย็นละลายไขมัน …อันนี้ผมชอบเป็นพิเศษ ครับเพราะสะดวกง่าย ไม่มีแผล ไม่เจ็บ และปลอดภัยมากๆครับ เครื่องมือที่เขาชูในเรื่องนี้ที่ผ่าน การรับรองจาก องค์การอาหารและยา เครื่องมือแพทย์ ทั่วโลกคือ Cooltech define ครับ ตัวนี้เขาเอาไว้ลดทำลายไขมันด้วยความเย็น อ่านเพิ่มเติมได้ในหัวข้อ Cooltech vs Coolsculping vs เครื่องลดไขมันด้วยความเย็น Cryolipolysis ทุกเครื่อง
หัวเขาออกแบบมาสำหรับใต้คาง 2 แบบเลยนะครับ ทำสัก 30 นาทีกลับบ้าน แล้วรอผลกันได้เลยครับผม ค่าใช้จ่ายก็ไม่แพง ผลข้างเคียงแทบไม่มีเลยครับ
4. การใช้ คลื่นเสียงและคลื่นวิทยุ ทั้งเครื่องตระกูล RF , Ulthera , Thermage พวกนี้ช่วยยกกระชับบริเวณใต้คางได้เป้นอย่างดีนะครับ ในส่วนยกกระชับหน้านี่ เอาเทร่าดังที่สุดครับ แต่ถ้าส่วนไขมันใต้คาง ผมว่า เอาเทร่าพอๆกับเทอร์มาสครับผม
ส่วนพวกคลื่นวิทยุธรรมดา <RF> ผมว่าจะด้อยที่สุดครับ แต่พวกนี้เลือกเอานะครับ จะใช้อะไร อยู่ที่งบประมาณเรา ถ้าไม่จำเป็น เราก็ไม่ต้องทำก็ได้ครับ เพราะค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง อ่านเพิ่มเติมในหัวข้อ Ultherapy vs Thermage flx vs HIFU กับ โบทอกซ์ หรือ ร้อยไหม อันไหนดีกว่ากัน !!!!
5. การใช้ Botox ปัจจุบัน มีการใช้โบทอกซ์เพื่อยกกระชับใต้คางนะครับ รวมถึงเทคนิคใหม่จากฝรั่งเศสและเกาหลีที่เขาเอาโบทอกซ์มาผสมเพื่อจัดการไขมันแล้วฉีดเข้าไปในชั้นไขมัน บางที่เรียกว่า คอกเทลล์ อันนี้ก็ได้ผลพอสมควรและราคาไม่แพงครับ แต่อาจแลกมาด้วยรอยช้้ำสักพักได้นะครับผม
Q : วิธีไหนดีที่สุด?
A : ถ้าผมชอบนะ ผมชอบ ใช้ความเย็นลดไขมันครับ เพราะปลอดภัยดี ทำง่าย ประสิทธิภาพดีมากๆ และ ไม่ต้องพักฟื้นตัว รองมาน่าจะโบทอกครับ เพราะราคาคบหากันได้ ครับผม แต่ถ้ามีงบประมาณอาจมองหา เอาเทร่าหรือ เทอร์มาสก็ได้ครับ แต่โดยรวมผมชอบ สลายด้วยความเย็นมากที่สุดครับ
Q : เเล้วจะเลือกรักษาที่ไหนดี เลือกยังไง ?
A : จริงๆเเล้วการเลือกนั้นไม่จำเป็นต้องมีเครื่องเลเซอร์ที่ดีมากระดับอย อเมริกาก็ได้นะครับ (แต่ถ้าผ่าน อย อเมริกา ผมว่าจะยิ่งดี 55 ) เพราะอาจารย์ผมบางท่านท่านรักษาฝ้าใช้วิธี เเค่ Soft Peeling ด้วย chemical peeling ตระกูล jessner , Modified Jessner , Blue peeling etc. ก็สามารถทำได้ดีครับ เเต่เเพทย์ต้องชำนาญจริงๆเท่านั้นเพราะ การใช้สารเคมีเเบบนี้ไหม้เอาง่ายๆครับ
ดังนั้นหลักการสำคัญก็เหมือนเคย ควรเลือกเเพทย์ที่ดี ที่น่าเชื่อถือ มีวุฒิ ไม่เอาเเต่ชักเเม่น้ำขายของ เพราะผมว่าจะหาได้ยากนะครับที่คุณจะเดินเข้าคลินิกเขา เเล้วเขาบอกว่าทำไม่ได้ หรือเครื่องมือที่เขามีไม่เหมาะกับคุณ
ดังนั้นถ้าเเพทย์ที่ดี ที่น่าเชื่อถือเขาสามารถบอกความจริงเเก่คุณได้ว่าเครื่องมือที่เขามีสามารถรักษาคุณได้จริงไหม ได้ระยะเวลาเท่าไหร่ ไม่ใช่เอาเเต่โม้หรือมั่วไปเรื่อยว่าทำได้ อยูได้เป็นปีอะไรประมาณนี้ เเล้วคุณก็ลองดูเครื่องมือเขาว่าดีจริงไหมเพราะพวกนี้มัน search net ได้อยู่เเล้วว่าผ่าน อย อเมริกาจริงไหม เพราะคลินิคที่ใหญ่ บางครั้งก็อาจจะไม่ได้ใช้เครื่องมาตรฐานเสมอไปครับ
สรุปก็คือดูที่เเพทย์ก่อนเลย ถ้าเเพทย์น่าเชื่อถือ เป็นหมอที่เป็นหมอ ไม่ใช่นักธุรกิจในคราบหมอ คุณจงไปหาเขา ต่อให้เขาอยู่ไกลเเค่ไหนคุณก็ควรไปครับ เพราะสิ่งที่คุณได้นอกจากผลการรักษาที่ดี ที่น่าพอใจ เเล้วยังคุ้มค่ากับเงินที่ต้องเสียไป เเถมไม่มีผลข้างเคียงให้เสียใจเเบบในข่าวครับผม